การศึกษา
สถานศึกษาในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลหัวฝาย ประกอบด้วย
- โรงเรียนวัดศรีดอก
- โรงเรียนบ้านช่องลม
- โรงเรียนบ้านดอนชัย
- โรงเรียนทุ่งเจริญ
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กองค์การบริหารส่วนตำบลหัวฝาย
- ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอสูงเม่น
โรงเรียนที่มีอยู่ตั้งกระจายในหมู่บ้านต่างๆ มีการเรียนการสอนถึงชั้นประถมศึกษา มีเพียงโรงเรียนบ้านวัดศรีดอกแห่งเดียวที่เป็นโรงเรียนขยายโอกาส มีการเรียนการสอนถึงระดับมัธยมศึกษาตอนต้นโรงเรียนทุกแห่งมีพื้นที่โล่งและสนามกีฬาที่อนุญาตให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียงเข้ามาใช้เป็นสถานที่ประกอบกิจกรรมนันทนาการและกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ
ที่อ่านหนังสือพิมพ์ประจำหมู่บ้าน
ทุกหมู่บ้านจะมีที่อ่านหนังสือพิมพ์ประจำหมู่บ้าน ส่วนใหญ่จะเป็นเรือนไม้เล็กๆ ตั้งอยู่บนพื้นที่สาธารณะประโยชน์ของหมู่บ้าน เป็นต้น
ที่โล่งเพื่อกิจกรรมนันทนาการและจัดงานในโอกาสต่างๆ
มีพื้นที่โล่งเพื่อกิจกรรมนันทนาการ เช่น สนามกีฬา สวนสาธารณะฯ ที่จัดไว้ให้ประชาชน มีจำนวนต่ำกว่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ ไม่มีสาธารณะและสวนสุขภาพ อย่างไรก็ตาม หากรวมเอาพื้นที่สนามกีฬาพื้นที่โล่งในโรงเรียน ในวัด ในสถานที่ราชการที่อนุญาตให้ประชาชนเข้าไปใช้ประกอบกิจกรรมนันทนาการได้ในบางเวลา ก็จะมีพื้นที่การใช้ที่ดินประเภทนี้พื้นที่โล่งเพื่อกิจกรรมนันทนาการสูงกว่ามาตรฐาน
สาธารณสุข
มีโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลภายในตำบลหัวฝาย จำนวน 2 แห่ง นอกจากนั้นแล้วแต่ละหมู่บ้านยังมีศูนย์สาธารณสุขมูลฐานชุมชนประจำหมู่บ้าน จำนวน 13 แห่ง
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล จำนวน 2 แห่ง
- สถานพยาบาลเอกชน จำนวน 1 แห่ง
- ร้านขายยา จำนวน 4 แห่ง
อาชญากรรม
(1) จำนวนผู้เสียชีวิตโดยอุบัติเหตุจากรถยนต์ จำนวน – คน
(2) ความเสียหายจากภัยธรรมชาติที่เกิดจากมนุษย์ และจากธรรมชาติ จำนวน – บาท
(3) จำนวนคดีประทุษร้ายต่อทรัพย์ และประชาชน จำนวน – คดี
(4) จำนวนคดีเสียชีวิต ร่างกาย และเพศ จำนวน – คดี
(5) จำนวนอุบัติเหตุจากรถยนต์ จำนวน – ครั้ง
ยาเสพติด
พื้นที่ตำบลหัวฝาย การแพร่ระบาดยาเสพติด ยังคงมีการแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่ทุกหมู่บ้านโดยเฉพาะยาบ้า ส่วนใหญ่เป็นผู้เสพ และค้ารายย่อย
การสังคมสงเคราะห์



การนับถือศาสนา
ประชาชนในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลหัวฝาย นับถือศาสนาพุทธ โดยมีวัดอยู่จำนวน 4 แห่ง และโบสถ์คริสจักร จำนวน 1 แห่ง เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาได้แก่
ฌาปนสถาน
ในพื้นที่่มีฌาปนสถาน จำนวน 2 แห่ง ตั้งอยู่ภายในหมู่บ้าน ระบบที่ใช้เป็นเมรุแบบเตาเผา ได้แก่
- ฌาปนสถานขี้หนอน
- ฌาปนสถานป่าช้าปู่เป็ง
ประเพณีและงานประจำปี
- งานประเพณีบุญปั้งไฟเป็นประเพณีที่นิยมทำกันในเดือน 6 เหนือ การจัดทำบุญบั้งไฟขึ้นเพื่อบูชาอารักษ์หลักเมือง เป็นประเพณีทำบุญขอฝนจากพญาแถนเพื่อให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล บุญบั้งไฟมีตำนานเล่าขานมานาน จากนิทานพื้นเมืองเรื่องผาแดงนางไอ่ เรื่องพระยาคันคาก ล้วนแล้วแต่กล่าวถึงการจุดบั้งไฟให้แถน (เทวดา) ได้บันดาลให้ฝนตกตามฤดูกาล ถือเป็นประเพณีอันสำคัญที่จะละเลยมิได้ เพราะมีความเชื่อว่า หากหมู่บ้านใดไม่จัดงานบุญบั้งไฟก็อาจจะก่อให้เกิดภัยพิบัติแก่ผู้คนในชุมชน
- พิธีสืบชะตา เป็นพิธีกรรมที่จะทำขึ้นเมื่อมีเคราะห์ อาจทำเป็นรายบุคคลหรือเป็นกลุ่มหรือสืบชะตาบ้านเมือง แม่น้ำ ต้นไม้ วัว ควาย สัตว์เลี้ยงที่อำนวยประโยชน์ต่อการดำรงชีวิตเพื่อช่วยต่อชีวิตให้ยืนยาว พ้นจากความเดือดร้อนและภัยพิบัติต่าง ๆ
- พิธีสงเคราะห์ เป็นพิธีกรรมที่เกิดขึ้นจากความเชื่อที่ว่าคนเราอยู่ภายใต้อิทธิพลของดาว นพเคราะห์เมื่อมีเคราะห์ร้ายหรือบาดเจ็บจึงต้องทำพิธีบวงสรวงเทพเจ้าประจำดาวนพเคราะห์ดวงนั้น ๆ
- พิธีตานตุงแดง เป็นพิธีกรรมที่ทำให้แก่ คนตายโหง เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้คนตายโดยจัดทำตุง (ธง) สีแดงสด พร้อมอาหารเครื่องเส้นสรวง กองทราย ตุงช่อ ไก่ขาว แล้วนิมนต์พระไปสวดทำพิธี ณ บริเวณที่คนนั้นตาย เป็นการถอนวิญญาณให้ไปเกิดใหม่ หรือไปเสียจากบริเวณนั้น
- พิธีบูชาเทียน หรือ ปูจาเตียน เป็นพิธีกรรมเกี่ยวกับการสงเคราะห์อย่างหนึ่ง ทำโดยการนำเทียนขี้ผึ้งแท้ 3 เล่ม ไส้เทียนทำด้วยด้ายสีขาว จำนวนเส้นด้ายเท่ากับอายุของผู้บูชาเทียนให้พระเป็นผู้ทำพิธีจุดเทียนหน้าพระพุทธรูปที่วัดหรือที่บ้าน เพื่อให้เกิดโชคลาภแก่ผู้บูชา
- พิธีฮ้องขวัญ หรือ สู่ขวัญ เป็นพิธีกรรมที่ทำให้กับคนที่ฟื้นไข้ใหม่ๆ โดยมีหมอขวัญ ทำพิธีทำพิธีให้มีเครื่องประกอบพิธี เช่น หมาก เทียน ผ้าขาว ผ้าแดง ข้าวสาร เงินบาท เหรียญบาท อาหารคาวหวาน เสื้อผ้าของผู้ป่วยและไข่ต้ม นอกจากนี้ยังอาจจะทำเพื่อเรียกขวัญข้าว ขวัญวัว ขวัญช้าง ขวัญนาค
- พิธีเลี้ยงผีปู่ผีย่า เป็นพิธีเซ่นไหว้บรรพบุรุษ หรือ ผีประจำตระกูล เพื่อคอยปกปักรักษาลูกหลานให้อยู่เป็นสุข มักทำเป็นประจำทุกปี เป็นเวลา 1 วัน ราวเดือน 5 หรือ เดือน 6 เหนือ โดยเชิญผีปู่ย่ามาเข้าร่างคนทรง ให้ลูกหลานมากราบไว้ขอพร และเลี้ยงอาหาร ในพิธีจะมีดนตรีพื้นเมืองมาบรรเลง เช่น วงสะล้อ ซอซึง
- ประเพณีปี๋ใหม่เมือง เป็นประเพณีสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 3 – 17 เมษายนของทุกปี มีกิจกรรมในแต่ละวัน คือ (1) วันที่ 13 เมษายน เรียกว่าวันสังขารล่อง ตอนเช้ามืดจะมีการจิสะโป้ก (จุดพลุเสียง ซึ่งทำด้วยปล้องไม้ไผ่ ) เพื่อไล่สังขาร ช่วงกลางวันจะทำความสะอาดร่างกายสระผม ซักเสื้อผ้า ทำความสะอาดบ้านเรือนและทำพิธีขอขมา ไหว้ธรณีประตู หม้อข้าว เตาไฟ ฯลฯ ในบ้านของตน (2) วันที่ 14 เมษายน เรียกว่าวันเนาว์ เป็นวันทำบุญตักบาตรที่วัดและอุทิศส่วนกุศลไปให้บรรพบุรุษ (ภาษาถิ่นเรียกว่า“ไปตานสะป้อก”) ตอนบ่ายขนทรายเข้าวัดในวันนี้ห้ามกล่าวคำหยาบหรือคำที่ไม่เป็นมงคล (3) วันที่ 15 เมษายน เรียกว่าพญาวัน ตอนเช้าไปทำบุญที่วัด ตอนสายทำพิธีดำหัวญาติผู้ใหญ่ ตอนบ่ายสรงน้ำพระที่วัด (4) วันที่ 16 เมษายน เรียกว่าวันปากปี เป็นวันเริ่มต้นปีใหม่มีการทำพิธีสะเดาะเคราะห์ และสืบชะตากันที่วัด (5) วันที่ 16 เมษายน เรียกว่าวันปากเดือน ถือเป็นวันเสร็จสิ้นภารกิจ จึงมีการฉลอง ปีใหม่กันอย่างสนุกสนานครื้นเครง มีขบวนแห่และการละเล่นพื้นเมืองต่าง ๆ
- ประเพณีกิ๋นสลาก หรือการถวายสลากภัต หรือตานก๋วยสลาก เป็นประเพณีการให้ทานตามกาลเวลาที่กำหนด ไม่เจาะจงว่าให้แก่พระภิกษุรูปใด จัดขึ้นในช่วงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 เหนือ ถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือนเกี๋ยง (กันยายนถึงพฤศจิกายน)
- ประเพณีลอยกระทง ตรงกับวันเพ็ญเดือน 12 ภาษาถิ่นเรียกว่า ประเพณียี่เป็ง ช่วงเช้า มีการทำบุญตักบาตรและปล่อยโคมลอย ฟังเทศน์ทำนองพื้นเมือง 16 กัณฑ์ คือ เทศน์มหาชาติ 13 กัณฑ์ เทศน์พระมาลัยต้น 1 กัณฑ์ เทศน์พระมาลัยปราย 1 กัณฑ์ และเทศน์อานิสงส์ผางประทีป 1 กัณฑ์ จบภายใน 1 วัน และมีการจุดดอกไม้เพลิง (บอกไฟดอก) ถวายเป็นพุทธบูชาด้วย กลางคืน มีการลอยกระทง ซึ่งเชื่อว่าเป็นการสะเดาะเคราะห์วิธีหนึ่ง โดยอธิษฐานก่อนปล่อยกระทงลงน้ำว่า “ ขอให้เคราะห์ร้ายทั้งหลาย จงดับไปกับไฟ ไหลไปกับน้ำ ”
- ประเพณีเข้าพรรษา ตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 10 เหนือ ไปจนถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือนเกี๋ยงเหนือ ( เดือน 11 ภาคกลาง ) ชาวบ้านทั้งหลายจะพากันไปทานขันข้าวหาคนตาย รวมทั้งการทานแด่ พ่อแม่ ปู่ย่าตายาย ที่ยังมีชีวิตอยู่ และใส่บาตร รับศีล ตอนกลางคืนมีการถวายเทียนพรรษา ก่อนจะถึงวัน หรือเวลาถวายเทียน มักจะมีการแห่เทียนพรรษาไปตามหมู่บ้านเป็นที่สนุกสนาน ในช่วงเข้าพรรษาชาวบ้านส่วนใหญ่จะไปทำบุญกันทุกวันพระ มีการฟังเทศน์ ฟังธรรม สำหรับ คนทั่วไปบางคนตั้งใจในการงดเว้นบาป และถือศีล เช่นรักษาศีลตลอดพรรษา งดเว้นดื่มสุรา งดเว้นเนื้อสัตว์ตลอดพรรษา
- ประเพณีออกพรรษา ตรงกับ วันขึ้น 15 ค่ำ เดือนเกี๋ยง ( เดือน 11 ภาคกลาง ) ก่อน วันออกพรรษาหนึ่งวันซึ่งตรงกับวันอาสาฬหบูชา ชาวบ้านจะมีการทำอาหาร ขนม เพื่อนำไปทำบุญ ตักบาตรเทโวในวันนี้พระสงฆ์จะทำพิธีทางศาสนาในพระอุโบสถตอนรุ่งอรุณ หมู่พระสงฆ์จะเดินออกมาจากพระอุโบสถ ระหว่างที่พระสงฆ์เดินเรียงมานี้ ชาวบ้านผู้ทำบุญก็จะทำพิธีใส่บาตรด้วยข้าวสุกบ้าง ข้าวต้มบ้าง ขนมที่เตรียมไว้บ้างซึ่งปัจจุบันนิยมใส่ด้วยข้าวสารอาหารแห้ง พอสาย ๆ ชาวบ้านจะทำบุญที่เรียกว่า ทานขันข้าว ให้กับญาติที่ตายไป